ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงหลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ UK ที่สูงกว่าคาดและรายงานสรุปการประชุม FOMC

ภาพรวมตลาด เมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีหุ้นสหรัฐมีการปรับตัวลดลงหลังรายงานตัวเลข UK CPI ที่สูงกว่าความคาดหมายตลาด และมุมมองของคณะกรรมการ FOMC ต่อความเสี่ยงหากเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq-100 ปรับตัวต่ำลง -70 bps และ -1.2% ตามลำดับ โดยที่หุ้น Value ทำผลงานดีกว่าหุ้น Growth 40 bps ในส่วนของปริมาณการซื้อขายยังคงอยู่ในระดับต่ำมากต่อเนื่องจากคืนก่อนที่ -31% เมื่อเทียบกับ 200-Days Moving Average (200DMA) ภาพรวมตลาดมีความผันผวนมากขึ้นวัดจากดัชนี VIX Index ที่ปรับตัวสูงขึ้น +0.2 จุดแตะระดับ 19.9 จุด

รายงานตัวเลข UK CPI ตัวเลข UK CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภคนั้นรายงานออกมาสูงกว่าความคาดหมายตลาดที่ +0.6% m/m vs est. +0.4% ทำให้ตัวเลข y/y สูงถึง +10.1% จาก +9.4% ในเดือนมิถุนายน นำโดยกลุ่มอาหารและท่องเที่ยว ด้วยตัวเลขที่สูงกว่าความคาดหมายในครั้งนี้ ทำให้ตลาดเริ่มไม่มั่นใจในความคิดที่ว่าอัตราเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

สรุปการประชุม FOMC รายงานการประชุม FOMC ของเดือนที่ผ่านมามีแน้วโน้มไปในทิศทางเดียวกับการแถลงการณ์ประธาน Fed ในสัปดาห์ก่อนหน้า คาดว่าจะยังเป็นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก +75 bps ในเดือนกันยายนเพราะถึงแม้ว่าการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงจะถือเป็นความเสี่ยง แต่การไม่ปรับขึ้นและปล่อยให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกถือเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่า

สถานการณ์ตลาดพันธบัตร ราคาน้ำมันและค่าเงิน
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีมีการปรับตัวสูงขึ้น +9 bps แตะระดับ 2.90%
- ราคาน้ำมัน Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้น +1.4% ปิดราคาที่ $93.65 ต่อบาร์เรล จากรายงานปริมาณน้ำมันในคลังน้ำมันดิบที่ลดลง 7 ล้านบาร์เรล
- ค่าเงินสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น +15 bps และมีความผันผวนระหว่างวันมากกว่าปกติจากการรายงาน UK CPI

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้
วันพฤหัส: แถลงการณ์ประธาน Fed George แห่ง Kansas City และ ประธาน Fed Kashkari แห่ง Minneapolis, รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรก (US Initial Jobless Claims)
วันศุกร์: แถลงการณ์ประธาน Fed Barkin แห่ง Richmond