เทรด DW อย่างมืออาชีพต้องดูอะไร จุดไหนควรเข้า-ออก-หนี?

2021-04-26

รวมสิ่งที่นักเทรด DW มืออาชีพควรรู้ เข้า-ออกตอนไหนมั่นใจกว่า?

ประเด็นสำคัญ

#1. DW ซื้อขายอย่างไร ตอบโจทย์การลงทุนของเราหรือไม่?

#2. ปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อการขึ้นและลงของราคา DW

#3. เทรด DW แบบมืออาชีพ ต้องรู้จุดเข้า จุดออก และจุดหนีที่ถูกจังหวะ

 

    สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน Derivative Warrants หรือ DW คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้เงินลงทุนในจำนวนเริ่มต้นน้อยกว่า แต่สามารถเข้าถึงดัชนีทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่กว้างกว่าการกระจุกเงินลงทุนไว้ในผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพียงไม่กี่ประเภท แต่ด้วยความที่ DW มีความผันผวนและความเสี่ยงค่อนข้างสูง ทั้งผู้เริ่มเล่นและผู้ที่ถือครอง DW หรือ “ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์”  จึงควรมีแนวทางที่ชัดเจนในการเลือก DW ให้เหมาะกับเป้าหมายการลงทุน ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาและการขึ้นลงของ DW ตามข้อมูลที่เรานำมาแบ่งปันกันดังนี้

DW ซื้อขายอย่างไร ตอบโจทย์การลงทุนของเราหรือไม่?

    อย่างที่เราทราบกันดีว่า DW แม้จะสามารถซื้อขายได้บนตารางเดียวกับกระดานหุ้น แต่ไม่ใช่หุ้น เพราะจะมีการเคลื่อนไหวของราคาขึ้นอยู่กับราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในดัชนีต่าง ๆ เช่น ดัชนี SET50 ในประเทศ ไปจนถึงดัชนีต่างประเทศ เช่น NASDAQ-100 หรือ S&P500

    DW คือสิทธิ์ในการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต และมีระยะเวลาหมดอายุ ซึ่งผู้ถือครอง DW สามารถเลือกได้ว่าจะซื้อขาย DW เพื่อทำกำไรก่อนวันครบกำหนดอายุ  หรือถือครอง DW เอาไว้จนหมดอายุเพื่อใช้สิทธิตามที่ระบุในแต่ละ DW ซึ่งอย่างหลังนั้นไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะDW มีค่า Time Decay ที่ยิ่งถือนานก็จะทำให้มูลค่า DW ลดลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นส่วนใหญ่ผู้ลงทุนก็มักจะหาจังหวะในการขายออกเพื่อทำกำไรก่อน โดยลักษณะที่สำคัญของ DW ข้อหนึ่งก็คือ การลงทุนใน DW จะจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในมูลค่าของต้นทุนที่ซื้อ DW มาเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าการลงทุนในหุ้นอ้างอิงตัวนั้นโดยตรงน ดังนั้น ตราสารอนุพันธ์ DW คือเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุน ต้องการลงทุนระยะสั้นไปจนถีงระยะกลาง และมีความพร้อมที่จะเผชิญความผันผวน แต่ในขณะเดียวกัน ในความเสี่ยงนั้นก็ยังต้องการผลิตภัณฑ์สักตัวที่มีช่องทางทำกำไรได้ ไม่ว่าดัชนีนั้นจะอยู่ในขาขึ้นหรือขาลงก็ตาม ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หากลงทุนในหุ้นโดยตรง การทำกำไรในช่วงขาลงอาจเป็นไปได้ยากกว่าจากข้อจำกัดจากการ short sell บนหุ้น

ปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อการขึ้นและลงของราคา DW

    DW คือเครื่องมือการลงทุนที่มีความเสี่ยงและต้องการความรอบคอบในการซื้อขาย การจะเทรด DW ให้มั่นใจได้แบบนักลงทุนมืออาชีพจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อราคาของ DW เอาไว้ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีเหตุผลรองรับ โดยเราได้รวบรวมค่าต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อราคามาสรุปไว้ให้เข้าใจง่ายแล้ว ดังนี้

Effective Gearing หรืออัตราทด เป็นค่าที่ใช้บอกระดับความแรงของ DW ตัวนั้น ๆ ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ หากสินทรัพย์อ้างอิงมีการขยับขึ้นลงของราคา ซึ่งค่านี้เป็นตัวชี้วัดผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับว่าจะกำไรหรือขาดทุนเป็นจำนวนเท่าไหร่ เช่น หากค่า Effective Gearing เป็น 5% หมายความว่า เมื่อสินทรัพย์อ้างอิงหรือหุ้นแม่มีราคาขึ้น 1%  ราคาของ DW ก็จะขึ้น 5% และหากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลง 1% ราคาของ DW ก็จะปรับลง 5% ด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่ Effective Gearing จะถูกนำไปใช้วัดความเสี่ยงของ DW แต่ละตัว ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าค่า Effective Gearing ที่ระดับเท่าไรจะเหมาะสมกับเรา แต่ต้องขึ้นกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล  นอกจากนั้น เวลาดูค่า Effective Gearing ควรอ้างอิงกับทางเว็บไซต์ของผู้ออก DW ตัวนั้น ๆ โดยตรงเพื่อความแม่นยำของค่าดังกล่าว

Time Decay หรือค่าเสื่อมเวลาของ DW คือตัวเลขอีกหนึ่งตัวที่มีผลต่อกำไร-ขาดทุนของผู้ลงทุน โดยเป็นตัวบอกว่าหากผ่านไปแล้ว 1 วัน ค่าของ DW ที่เราถือนั้นจะมีราคาลดลงเท่าไหร่ หาก DW ตัวใดมีค่า Time Decay สูง เมื่อเวลาผ่านไป ราคาของ DW ตัวนั้นก็จะยิ่งลดลงมาก ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่นักลงทุนควรเลือกถือ DW ที่มีค่า Time Decay ต่ำ เพื่อให้ถือ DW นั้น ๆ ได้นานขึ้น อย่างไรก็ตามหาก DW ตัวนั้นๆ มี Feature อื่นๆที่น่าสนใจ และนักลงทุนไม่ได้วางแผนที่จะถือนาน นักลงทุนก็อาจจะรับค่า Time Decay ที่สูงขึ้นมาได้

Sensitivity ของ DW คืออีกตัวหนึ่งที่สามารถบอกความเปลี่ยนแปลงของราคา DW แต่จะดูผลเป็น “ช่อง” เช่น หาก DW มีค่า Sensitivity เป็น 3 แล้ว เมื่อราคาของสินทรัพย์อ้างอิงเปลี่ยนแปลงไป 1 ช่วงราคา ราคาของ DW จะเปลี่ยนแปลงไปถึง 3 ช่องโดยส่วนใหญ่แล้ว นักลงทุนนิยมเลือก DW ที่มีค่า Sensitivity ใกล้เคียงกับ 1

Implied Volatility หรือค่าความผันผวนแฝงของ DW คือค่าที่บอกความถูกความแพงของ DW ตัวนั้นๆ ในรูปของเปอร์เซ็นต์ โดยใช้ความผันผวนของราคาหลักทรัพย์อ้างอิงที่เกิดขึ้นในอดีตและมุมมองต่อความผันผวนในอนาคตมาอ้างอิง หาก Implied Volatility ยิ่งสูง DW ตัวนั้นก็จะยิ่งแพง โดยเปรียบเทียบบนหลักทรัพย์เดียวกันและวันครบกำหนดอายุใกล้กัน ดังนั้น เมื่อเราเปรียบเทียบ DW ที่ feature ใกล้เคียงกัน เราควรเลือก DW ที่มีค่า Implied Volatility ต่ำกว่า

เทรด DW แบบมืออาชีพ ต้องรู้จุดเข้า จุดออก และจุดหนีที่ถูกจังหวะ

    จังหวะในการลงทุนคือสิ่งสำคัญในการซื้อขาย Derivative Warrants เพราะหากตัดสินใจคลาดเคลื่อนไปนิดเดียว สามารถส่งผลต่อกำไร-ขาดทุนเป็นอย่างมาก และถึงแม้ว่าคุณจะเริ่มต้นลงทุนมาแล้วสักระยะ แต่ก็อย่าลืมว่า การเข้าออกและซื้อขายให้เหมาะสมกับสภาวะในตลาดยังคงเป็นสิ่งที่ต้องการความรอบคอบที่สุดในการตัดสินใจ

จุดเข้า: ควรซื้อเมื่อไหร่?

    การตัดสินใจลงทุนใน DW ขึ้นอยู่กับตัวผู้ลงทุนเองว่ามีกลยุทธ์ในการสร้างผลตอบแทนอย่างไร โดยก่อนจะซื้อ ควรมีการวางแผนให้ชัดเจนเสมอ ตั้งจุดทำกำไร จุดขาดทุนที่รับได้ และจุด cut loss เอาไว้ก่อน และรอซื้อในราคาตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ โดยอาจเริ่มจาก DW ที่อ้างอิงบนสินทรัพย์ที่คุ้นเคย

    อีกหนึ่งข้อควรรู้ ที่นักลงทุนหลายคนได้แนะนำเอาไว้ เพื่อเป็นข้อเตือนใจก็คือ DW ที่มีอายุคงเหลือไม่ถึง 2 สัปดาห์จัดเป็น DW ที่มีความเสี่ยงสูงมากจากการที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น หากใครคิดจะ “เข้า” ถือ DW ที่มีอายุคงเหลือไม่มากควรต้องระมัดระวังในข้อนี้ด้วย

จุดออก: ควรขายเมื่อไหร่?

    เมื่อราคาของ DW ขึ้นไปถึงจุดที่ได้กำไรตามที่ตั้งเอาไว้ ก็ควรพิจารณาขายก่อนที่ราคาจะผันผวนมากกว่าเดิมหรือปรับตัวลดลง ในทางเดียวกัน หากราคาลงจนถึงจุดขาดทุนที่รับได้ ก็ควร หนี หรือตัดขาดทุนที่จุด cut loss ก่อนที่ราคาจะพุ่งลงไปมากกว่าเดิมนั่นเอง

    นอกจากการกำหนดจุดออกเป็นราคากำไรหรือขาดทุนแล้ว ควรกำหนดระยะเวลาเอาไว้เป็นจุดออกด้วยว่าถ้าราคาไม่เปลี่ยนแปลงภายในกี่วันควรจะขายออก เพราะการถือครอง DW มีค่า Time Decay ดังนั้น หากถือครองนานเกินไปอาจทำกำไรยากและมีโอกาสขาดทุนจากค่าเสื่อมเวลาด้วยเช่นกัน

 

Derivative Warrants เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุน ซึ่งเปิดโอกาสให้ลงสนามซื้อขาย DW ที่อิงราคาหุ้น ดัชนีทั้งในไทยและต่างประเทศได้โดยใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อยกว่า นักลงทุนที่สนใจผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวนี้ หรือเคยซื้อขายมาระยะหนึ่งแล้วสามารถทำความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา ตลอดจนต้องการคำแนะนำในการซื้อขายเพื่อเสริมความมั่นใจในการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก J.P. Morgan เพราะเราเป็นบริษัทผู้ออก DW ที่มียอดขายอันดับ 1 ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง 8 ปีซ้อน (ปี 2013-2020) และมีประสบการณ์ดูแลนักลงทุนมาอย่างยาวนาน